เรียกว่าเป็นศึก ฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดรองจากศึก ฟุตบอลโลก เลยก็ว่าได้กับ ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติ ยูโรป หรือ ฟุตบอล ยูโร และก่อนที่จะเข้าสู่ศึก ยูโร 2024 อย่างเป็นทางการในกลางเดือนหน้านั้น เราก็มาดูประวัติและสถิติกันซักหน่อยครับว่า ชาติไหนบ้างทีไ่ด้แชมป์ฟุตบอล ยูโร มากที่สุด

ฟุตบอล ยูโร ทีมชาติไหนเป็นแชมป์มากที่สุด

ในประวัติศาตร์ของ ศึก ฟุตบอล ยูโร นั้นมีหลายชาติเหลือเกินที่สามารถคว้าแชมปืมาครองกันได้ แต่มันก็เฉกเช่นเดียวกับฟุตบอลโลก ที่มักจะมีชาติมหาอำนาจลูกหนัง ที่สามารถคว้าแชมป์ได้มากกว่าชาติอื่นๆเขาด้วย เราก็มาดูกันทีละทีมเลยว่า มีชาติไหนกันบ้างที่เคยได้แชมป์ฟุตบอล ยูโร และชาติไหนที่คว้าชมป์ได้มากที่สุด

ซึ่งุตบอล ยูโร นั้นจัดขึ้นมาแล้วทั้งหมด 16 ครั้ง ชาติที่คว้าแชมป์ได้มากที่สุดนั้น มีอยู่ 2 ชาติ ด้วยกัน นั่นก็คือ ทีมชาติ เยอรมัน กับ สเปน ที่ครองเจ้ายุโรปด้วยกันที่ 3 สมัย ส่วนชาติที่ได้แชมป์รองลงมาก็คือทีมชาติ ฝรั่งเศส และ อิตาลี ที่คว้าไป 2 สมัย ส่วนชาติที่คว้าได้ชาติละสมัยก็คือทาง สหภาพโซเวียต,สาธารณรัฐ เช็ก,เนเธอร์แลนด์,เดนมาร์ก,กรีซ,โปรตุเกส

ส่วนทางทีมชาติ อังกฤษ ทีมขวัญใจของคนไทยนั้น ยังไม่เคยได้สัมผัสกับแชมป์ฟุตบอล ยูโร เลยแม้แต่ครั้งเดียว โดยทำได้ใกล้เคียงที่สุดก็คือการเข้าชิงชนะเลิศในปี 2020 หรือเื่อ 4 ปี ที่แล้ว โดยเป็นการเข้าชิงครั้งแรกของทีมด้วย โดยแพ้ให้กับทีชาติ อิตาลี ไปในการดวลลูกที่จุดโทษ หลังจากที่เสมอกันในเวลา 1-1 โดยในปีนี้เองนั้น บรรดากูรูต่างก็ยกให้ทาง อังกฤษ นั้นเป็นเต็งหนึ่งที่จะคว้าแชมป์อีกด้วย

ซึ่งจะเห็นได้เลยว่าทีมใหญ่อย่าง อังกฤษ ยังไม่สามารถคว้าแชมป์รายการนี้ได้เลย แต่กลับมีทีมม้ามืดอย่างทาง เดนมาร์ก และ กรีซ ที่สามารถขึ้นมาคว้าแชมป์รายการนี้ได้ ซึ่งโดยเฉพาะ เดนมาร์ก ที่ได้สร้างตำนาน เทพนิยายเดนส์ เอาไว้ให้ทุกคนได้รู้ จาการที่ไม่ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย แต่ได้กลายเป็นมวยแทนที่ได้เข้ารอบสุดท้ายมาเล่น ซึ่งเมื่อเข้ามาแล้วก็ไม่ทำให้ผิดหวัง สามารถคว้าแชมป์ได้เลย เรามาดูกันดีกว่า มันมีความเป็นมายังไง

เปิดตำนานเทพนิยายเดนส์

ในศึก ฟุตบอล ยูโร 1992 ที่ สวีเดน เป็นเจ้าภาพนั้น ในรอบคัดเลือก เดนมาร์ก อยู่สายเดียวกับทาง ยูโกสลาเวีย ซึ่งทาง เดนมาร์ก ที่ทีมนั้นมีปัญหาเพราะทางดค้ชอย่าง ริชาร์ด โมลเลอร์ เนลเซ่น มีปัญหากับสองพี่น้อง เลาดรู๊ป ทั้ง ไมเคิล และ ไบรอัน ทำให้ 3 นัด แรกทีมนั้นชนะแค่นัดเดียว จนพี่น้อง เลาดรู๊ป ประกาศเลิกเล่นทีมชาติ ทีมก็มาเก็บชัยชนะได้จาก 5 นัดที่เหลือทั้งหมด แต่ทีมนั้นก็เป็นอันดับสองของกลุ่มรองจาก ยูโกสลาเวีย ทันที

แต่ว่า ยูโกสลาเวีย กลับมีปัญหาสงครามอยู่ในช่วงนั้น เลยทำให้ทาง ฟีฟ่า และ ยูฟ่า นั้นแบนออกจากการแข่งขัน ทำให้ เดนมาร์ก ได้เข้ามารอบแทนที่ แต่เป็นการรู้ล่วงหน้าเพียงแค่ 1 สัปดาห์ เท่านั้น ทาง กุนซือของทีมเลยเรียกนักเตะเข้ามาคุย แถมยังเคลียรืใจกับ พี่น้อง เลาดรู๊ป อีกด้วย แต่ทาง ไมเคิ่ล เลาดรู๊ป คนพี่นั้น กลับไม่สนใจที่จะกลับมา ทำให้เหลือเพียงค่ ไบรอัน เท่านั้น

ซึ่ง เดนมาร์ค ชุดนั้นมีทาง เฮนริค ลาร์เซ่น,ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล,ไบรอัน เลาดรู๊ป เป้นตัวชูโรง ซึ่ง เดนมาร์ค ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเอที่มีทีมอย่าง สวีเดน เจ้าภาพ,ฝรั่งเศส แชมป์เก่า,อังกฤษ เจ้าของตำหรับลูกหลัง อยู่ร่วมกลุ่ม แต่ทาง นีลเซ่น เองก็มองว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย เพราะมาในฐานะมวยแทน เล่นให้เต็มที่ไม่มีความกดดัน เขาเลยวางแผนสุดแยบยลเพื่อเอาชนะทีมเหล่านี้ให้ได้

เปิดมาเกมแรกกับทีมชาติ อังกฤษ เดนมาร์ก ซื้อเกมรับที่แข็งแกร่งของทีมเอาไว้ หยุดบรรดาทาง แกรี่ ลินิกเกอร์,อลัน สมิธ แนวรุกสุดอันตรายของ อังกฤษ ไว้ได้ที่ 0-0 พอมาเกมที่สองเจอเจ้าภาพ สวีเดน ที่มาเต็ม ทั้งทาง โทมัส โบรลิน,มาร์ติน ดาห์ลิน,อันเดรส ลิมปาห์ แถมยังได้เปรียบเสียงเชียร์อีกด้วย แต่ เดนมาร์ก เองนั้นก็พ่ายแพ้ไปด้วยสกอร์ 1-0 ทำให้ต้องมาเอาชนะทีม ฝรั่งเศส ให้ได้ในเกมสุดท้าย ซึ่งถือว่าหนักมาก แต่ทาง เดนมาร์ก ที่เล่นเกมรับมาตลอด 2 เกมแรกนั้น กลับเล่นเกมรุกใส่ ฝรั่งเศส ตั้งแต่ต้นเลย แถมทำได้ดีจนเอาชนะได้ 2-1 เข้าสู่รอบน็อกเอาท์ที่อะไรก็เกิดขึ้นได้แล้ว (ในปี 1992 ทีมเข้ารอบสุดท้ยมีแค่ 8 ทีม เท่านั้น โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม เอาที่ 1 และ 2 ของแต่ละสาย เข้าสู่รอรองชนะเลิศทันที)

มาถึงเวลานี้อะไรก็เกิดขึ้นได้แล้ว เดนมาร์ก มาเจอกับทาง เนเธอร์แลนด์ ที่เพิ่งจะคว้าแชมปืมาในครั้งที่แล้ว นำทีมมาโดย เพชรฆาตพรายกระซิบ มาร์โก แวน บาสเท่น,ฟลายอิ้ง ดัตช์แมน เดนนิส เบิร์กแคมป์,หัวงูเก็งกอง รูด กุลลิท,แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด นำทัพมา ในเกมนี้ เดนมาร์ก ออกนำถึงสองครั้งสองครา แต่ทาง เนเธอร์แลนด์ ก็มาตีเสมอได้ทั้งสองครั้ง ก่อนที่จะไปดวลจุดโทษ ซึ่งทาง ปีเตอรื ขไมเคิ่ล นายทวารทีมชาติ เดนมาร์ก ก็เซฟลูกยิงของ มาร์โก แวน บาสเท่น เอาไว้ได้ ทำให้ เดนมาร์ก เข้ารอบชิงชนะเลิศไปเจอกับ เยอรมัน

ต้องบอกว่าเป็นหนึ่งเกมที่ดีของ ชไมเคิ่ล เลยทีเดียว เมื่อเข้าสามารถหยุดลูกยิงของบรรดาผู้เล่น เยอรมัน ได้ทั้งมหด ทั้งทาง เจอร์เก้น คลิ้นส์มัน,อันเดรส เบรเม่ห์,สเตฟาน เอฟฟ่นแบร์ก แถมยังทัพ ดคนม ยังเล่นเกมสวนกลับได้อย่างน่าชื่นชม โดยขึ้นนำไปก่อน 1-0 ทำให้ เยอรมัน ต้องบุกดมากขึ้น แต่ก็ไม่ผ่านมือทาง ชไมเคิ่ล เลยแม้แต่ลูกเดียว จนสุดท้ายมาได้ประตูย่ำชัย 2-0 ทำให้ เยอรมัน นั้นยอมรับสภาพความพ่ายแพ้ไปในที่สุด ส่วน เดนมาร์ก ก็มาสร้างเทพนิยายเดนส์ เอาไว้ได้ คว้าแชมป์ครั้งแรกลแะครั้งเดียวจนถึงทุกวันนี้ ต้องมาดูว่าใน ยูโร 2024 นี้ จะมีทีมไหนเป็นม้ามืดคว้าแชมป์กันได้บ้าง